วันศุกร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2551

บทที่ 6













บทที่ 6 หลักการแก้ปัญหากับภาษาคอมพิวเตอร์
1.ให้นร.วิเคราะห์และกำหนดรายละเอียดของปัญหาต่อไปนี้
1.1หาพ.ท.ของรูปสามเหลี่ยมใดๆ เมื่อสูตรในการคำนวณพื้นที่รูปสามเหลี่ยมคือ 1/2 x สูง x ฐาน
ตอบ 1.การระบุข้อมูลเข้า
ข้อมูลเข้าก็คือ ความสูงและความยาวฐานของรูปสามเหลี่ยมใดๆ
2.การระบุข้อมูลออก
จากโจทย์สิ่งที่เป็นคำตอบของปัญหาคือพ.ท.ของรูปสามเหลี่ยมนั้น
3.การกำหนดวิธีการประมวลผล
โจทย์ต้องการหาพ.ท.ของสามเหลี่ยม ก็นำความสูงและความยาวฐานของรูปสามเหลี่ยมใดๆ มาเข้าในสูตรหาพ.ท.สามเหลี่ยม
มีขั้นตอนของการประมวลผลดังนี้
3.1รับค่าความสูงและความยาวของรูปสามเหลี่ยม
3.2 นำมาเข้าสูตร 1/2 x สูง x ฐาน (ได้ผลลัพธ์)
1.2 ตอบ 1.การระบุข้อมูลรับเข้า
คือ อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 8 ต่อปี เงินต้นครั้งแรก 1,000 บาท นายสมชายฝากเงิน 5 ปี
2.การระบุข้อมูลออก
คือ จากโจทย์สิ่งที่ต้องการหาคือจำนวนเงินทั้งหมดที่นายสมชายมีในบัญชีให้เป็นตัวแปร Y
3.การกำหนดวิธีการประมวลผล
โจทย์ต้องการจำนวนเงินทั้งหมด สามารถสรุปเป็นขั้นตอนในการประมวลผลได้ดังนี้
3.1 หาจำนวนเงินดอกเบี้ยที่ได้ในแต่ละปี
ดอกเบี้ย 8% ต่อปี ปีแรก ได้ 1000 x 8/100 = 80 เงินในบัญชีปีแรก =1,080
ปีที่ 2 ได้ 1080 x 8/100 = 86.4 เงินในบัญชีปีที่ 2 = 1080 + 86.4= 1,166.4
ปีที่ 3 ได้ 1166.4 x 8/100 = 93.3 เงินในบัญชีปีที่ 3 = 1166.4 + 93.3 = 1,259.7
ปีที่ 4 ได้ 1259.7 x 8/100 = 100.8 เงินในบัญชีปีที่ 4 = 1259.7 + 100.8 = 1360.5
ปีที่ 5 ได้ 1360.5 x 8/100 = 108.8 เงินในบัญชีปีที่ 5 = 1360.5 + 108.8 = 1469.3
เพราะฉะน้น y = 1469.5 บาท หรือ นายสมชายมีเงินในบัญชีธนาคารเมื่อครบ 5 ปี คือ 1469.50 บาท
1.3ตอบ
1.การระบุข้อมูลเข้า
จากโจทย์ข้อมูลเข้าคือ
- นักเรียนมีทั้งหมด 30 คน
- คะแนนเต็ม 100 คะแนน
มีเกณฑ์ให้คะแนนคือ > 80 ได้เกรด 4
70-79 ได้เกรด 3
60-69 ได้เกรด 2
50-59 ได้เกรด 1
<>
2.การระบุข้อมูลออก
ต้องการเกรดเฉลี่ย ของนร. ชั้นม. 4 จำนวน 30 คน
3.การกำหนดวิธีการประมวลผล
1.นำคะแนนเก็บของนักเรียนทั้ง 30 คน มาตรวจสอบ ว่าแต่ละคนได้ เกรดอะไร
2.นำเกรดของทั้ง 30 คนมาบวกกัน
3.นำเกรดที่บวกได้/จำนวนนร.ทั้งหมด
4.ได้เกรดวิชาเทคโนโลยีและสารสนเทศของนร.
2.จากข้อ1 เขียนผังงานแสดงขั้นตอนวิธีการในการแก้ปัญหาแต่ละข้อ
1.

2 3


3. ตอบหากนักเรียนเป็นโปรแกรมเมอร์ ผู้พัฒนาโปรแกรมคำนวณเกรดเฉลี่ยของนักเรียนในโรงเรียน นักเรียนจะเลือกใช้ภาษาปาสคาล ภาษาจาวา หรือภาษาเดลฟายในการเขียนโปรแกรมดังกล่าว เพราะเหตุใดตอบ. จะให้เลือกภาษาปาสคาล เพราะว่าเป็นภาษาในกลุ่มโปรแกรมแบบโครงสร้าง ซึ่งมุ่งเน้นให้มีการแบ่งโปรแกรมออกเป็นส่วนย่อยๆชัดเจนจากนั้นจึงค่อยเชื่อมโยงทำให้สามารถจัดการได้โดยง่าย ภาษปาสคาลจึงเป็นภาษาคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสำหรับสร้างพื้นฐานความคิดในการเขียนโปรแกรมโครงให้แก่นักเรียน สามารถให้ทักษะในการเขียนโปรแกรมอย่างมีหลักเกณฑ์และถูกต้อง และสามารถอ่านและทำความเข้าใจได้ง่าย

วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2551

บทที่5

ข้อ 5 ไมโครซอฟต์เอ็กซ์เซล1เรายังสามารถทำกราฟเส้น
2 ทำแผนผังองค์กรณ์ได้
3เรียงลำดับตัวอักษรได้

บทที่5

ไมโครซอฟต์เวิร์ด 1 เราสามารถนำรูปมาใส่ได้
2เราสามารถนฎแผนภูมิได้
3ทำตารางได้

วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2551

บทที่5

ตัวแปลภาษาระดับสูงให้เป็นภาษาเครื่องมี2ประเภท
1 คอมไพเลอร์
2อินเทอร์พรีเตอร์

บทที่5

ภาษาแอสเซมบลี เป็นภาษาระดับต่ำ ที่มีความใกล้เคียงกับภาษาเครื่อง คือ แทนที่จะเขียนคำสั่งในรูปแบบของภาษาเครื่อง ก็ใช้คำสั่งในรูปสัญลักษณ์แทน คำสั่งภาษาแอสเซมบลีหนึ่งคำสั่ง จึงแปลไปเป็นภาษาเครื่องหนึ่งคำสั่ง เป็นลักษณะคำสั่งต่อคำสั่ง อย่างไรก็ตามเพื่อให้การเขียนโปรแกรมง่ายขึ้น ภาษาแอสเซมบลีจึงมีคำสั่งอีกประเภทหนึ่งที่ไม่ได้แปลไปเป็นคำสั่งภาษาเครื่อง เรียกว่า ไดเร็คทีฟ (directive) ใช้เพื่อกำหนดข่าวสารให้กับแอสเซมเบลอร์ เช่น กำหนดตำแหน่ง ขนาด และค่าเริ่มต้นของข้อมูล เป็นต้น

บทที่5

ประโยชน์ในการใช้ระบบจัดการฐานข้อมูล
จากลักษณะความแตกต่างระหว่างระบบฐานข้อมูลกับแฟ้มข้อมูล จะเห็นได้ว่า ระบบฐานข้อมูลมีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีกว่า ซึ่งหน้าที่ในการจัดการต่างๆ เป็นของซอฟต์แวร์ดีบีเอ็มเอส ผลประโยชน์จากการใช้ซอฟต์แวร์นี้ สรุปได้ดังนี้
- ควบคุมความซ้ำซ้อนของข้อมูล - ควบคุมความปลอดภัยของข้อมูล โดยการกำหนดระดับของการเข้าถึงข้อมูลอย่างถูกต้อง - เตรียมส่วนติดต่อกับผู้ใช้ แม้ในกรณีที่มีผู้ใช้หลายๆคนพร้อมกัน - นำเสนอความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลที่ซับซ้อนได้เป็นอย่างดี - ควบคุมข้อบังคับต่างๆ ของข้อมูลได้อย่างถูกต้อง - ดูแลส่วนการสำรองข้อมูล (Back up) และการกู้ข้อมูล (Recovery) ของฐานข้อมูล

บทที่5

ลักษณะของซอฟแวร์ประยุกต์เฉพาะทาง
ซอฟต์แวร์ประยุกต์เฉพาะทาง เป็นโปรแกรมที่ได้รับการออกแบบและพัฒนาสำหรับนำไปใช้งานเฉพาะด้าน หรือในอาชีพใดอาชีพหนึ่ง เช่น โปรแกรมช่วยจัดการด้านการเงิน โปรแกรมช่วยจัดการบริการลูกค้า ฯลฯ ตามปกติจะไม่ค่อยได้พบเห็นซอฟต์แวร์ประเภทนี้ในท้องตลาดทั่วไป แต่จะซื้อหาได้จากผู้ผลิตหรือตัวแทนจำหน่ายในราคาค่อนข้างสูงกว่าซอฟต์แวร์ที่ใช้งานทั่วไป โครงสร้างของซอฟต์แวร์เฉพาะทางมักจะประกอบด้วย ฐานข้อมูลเพื่อใช้เก็บข้อมูลลูกค้า และระบบของงาน ภายในซอฟต์แวร์ควรจะมีส่วนทำงานประมวลคำเพื่อใช้สร้างรายงาน ติดต่อโต้ตอบจดหมาย และการนัดหมายตามกำหนดการ ลักษณะของซอฟต์แวร์เฉพาะทางนี้ มีทั้งรูปแบบที่มีผู้ใช้งานคนเดียว หรือผู้ใช้งานได้พร้อมกันหลายคน ในประเทศไทยมีการใช้ซอฟต์แวร์ประเภทใช้งานเฉพาะทางอยู่บ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นซอฟต์แวร์ที่บริษัทผู้ผลิตต่างประเทศได้ออกแบบมาเพื่อรองรับงานด้านธุรกิจ ในที่นี้ได้รวบรวมจัดประเภท ไว้ดังนี้ 1) ซอฟต์แวร์ระบบงานด้านบัญชี ได้แก่ ระบบงานบัญชีเจ้าหนี้ บัญชีลูกหนี้ บัญชีสินทรัพย์ถาวรและค่าเสื่อมราคาสะสม บัญชีแยกประเภททั่วไป และบัญชีเงินเดือน 2) ซอฟต์แวร์ระบบงานจัดจำหน่าย ได้แก่ ระบบงานรับใบสั่งซื้อสินค้า ระบบงานบริหารสินค้าคงคลัง ระบบงานควบคุมสินค้าแบบจำนวนและรายชิ้น และระบบงานประวัติการขาย 3) ซอฟต์แวร์ระบบงานในโรงงานอุตสาหกรรม ได้แก่ ระบบงานกำหนดโครงสร้างผลิตภัณฑ์ การวางแผนกำลังการผลิต การคำนวณต้นทุนของงาน การประเมินผลงานของพนักงาน การวางแผนการผลิตหลัก การวางแผนความต้องการวัสดุ การควบคุม การทำงานภายในโรงงาน การกำหนดเงินทุนมาตรฐานสินค้า และการกำหนดขั้นตอนการผลิต 4) ซอฟต์แวร์อื่น ๆ ได้แก่ ระบบการสร้างรายงาน การบริหารการเงิน การเช่าซื้ออสังหาริมทรัพย์ และการเช่าซื้อรถยนต์